แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดแพร่

แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดแพร่



แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและมรดก

  คุ้มเจ้าหลวง: ในเมืองแพร่ยังมีศิลปกรรมแบบกึ่งคลาสสิคที่สร้างเมื่อราวร้อยกว่าปีนี่เองก็คือคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ เป็นอาคารทรงอิตาเลี่ยนเก่าแก่ที่พำนักของเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์สุดท้าย ก่อนที่จะมีการก่อกบฏเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ อาคารหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2435 เป็นแบบยุโรปประยุกต์หลังคาสูงทรงปันหยา 2 ชั้น มีลวดลายเถาไม้แกะสลักประดับตัวบ้าน เช่นที่หน้าจั่ว ช่องลม ชายน้ำ ประตู หน้าต่างทั้งหมด 72 บาน ตัวอาคารก่ออิฐถือปูนทั้ง 2 ชั้น ไม่มีการฝังเสาเข็ม แต่ใช้ไม้ซุงท่อนเป็นไม้เนื้อแข็งรองรับฐานเสาทั้งหลัง ภายในบ้านตกแต่งด้วยสิ่งของเครื่องใช้เก่าแก่และภาพถ่ายที่หายากของเมืองแพร่


พระธาตุช่อแฮ: เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่ คู่บ้าน คู่เมืองจังหวัดแพร่และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 11 ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ บนเนื้อที่ 175 ไร่  บุคคลใดที่มาเที่ยวจังหวัดแพร่แล้วจะต้องมานมัสการพระธาตุช่อแฮ เพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเอง จนมีคำกล่าวว่าถ้ามาเที่ยวจังหวัดแพร่ แต่ไม่ได้มานมัสการ พระธาตุช่อแฮเหมือนไม่ได้มาจังหวัดแพร่ การเดินทางมาเที่ยว วัดพระธาตุช่อแฮ ถนนสายหลัก คือ ถนนช่อแฮ เริ่มตั้งแต่สี่แยกบ้านทุ่ง อำเภอเมืองแพร่ ซึ่งเป็นสี่แยกใจกลางเมืองแพร่ เข้าสู่ถนนช่อแฮ และตรงไปตามถนนช่อแฮ ผ่านโรงพยาบาลแพร่   สนามบินจังหวัดแพร หมู่บ้านเหล่า หมู่บ้านนาจักร หมู่บ้านแตหมู่บ้านมุ้ง สถานที่ตั้งของวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง อยู่ในบริเวณเขตเทศบาล ตำบลช่อแฮ ด้วยระยะทาง 9 กิโลเมตร จากตัวเมืองจังหวัดแพร่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2549 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับทั่วไป เล่ม 123 ตอนที่ 96 ง วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 (พ.ศ. 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัทรงใช้มวลสารจากพระธาตุช่อแฮ ทำพระสมเด็จจิตรลดา


วัดจอมสวรรค์: สร้างสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2437 โดยชาวเงี้ยว ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ในพม่า และเดินทางมา ค้าขายที่เมืองแพร่ เมื่อเกิดเหตุการณ์เงี้ยวปล้นเมืองแพร่ วัดจึงถูกปล่อยให้ทรุดโทรม ต่อมาได้รับการบูรณะจากชาวไทยใหญภายในวัดมีโบราณวัตถุที่มีคุณค่า่ หลายอย่างของเมืองแพร่และชาติไทยเป็นศิลปะอันล้ำค่าของพระพุทธ ศาสนา กรมศิลปากรได้เล็งเห็นความสำคัญของโบราณสถานและ โบราณวัตถุอันล้ำค่า จึงได้จดทะเบียนไว้ เป็นสมบัติของชาติ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2533เพื่อจะได้อนุรักษ์ ไว้ให้ลูกหลานสืบไป 



พระธาตุจอมแจ้ง : สร้างเมื่อ พ.ศ. 1331 ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง องค์พระธาตุจอมแจ้งสีทอง สูง 29 เมตร ฐานกว้าง 10 เมตร เดิมเรียกว่า พระธาตุจวนแจ้งเนื่องจากสมัยที่พระพุทธองค์เสด็จถึงสถานที่นี้จวน สว่างพอดี ต่อมาเพี้ยนเป็นจอมแจ้งเชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่บรรจุ พระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ พระหัตถ์เบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า





วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร : ตั้งอยู่ถนนเจริญเมือง อำเภอเมืองแพร่ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร แต่เดิมนั้นเป็นวัดราษฎร์ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้ยกฐานะ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ประเภทวรวิหาร นั้นวัดพระบาทมิ่งเมืองมาจากสองวัดรวมกัน ได้แก่ วัดพระบาท และวัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ห่างกันเพียงมีถนน กั้นเท่านั้น วัดพระบาทเป็นวัดของอุปราชหรือเจ้าหน้าหอ ส่วนวัดมิ่งเมืองเป็นวัดของเจ้าผู้ครองนครแพร่เมื่อเมือง แพร่ล้มเลิกระบบเจ้าผู้ครองนคร วัดทั้งสองก็ถูกทอดทิ้งอยู่ในสภาพทรุดโทรมมากกระทั่ง คณะกรรมการ จังหวัดเห็นสมควรรวมสองวัดเข้าด้วยกัน ให้ชื่อว่า วัดพระบาทมิ่งเมือง มาจนทุกวัน ปัจจุบันวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่และยังมีพระเจดีย์มิ่งเมือง ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่มีรอย พระพุทธบาทจำลองอยู่ภายใน นอกจากนี้วัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของมูลนิธิยาขอบอนุสรณ์เพื่อระลึกถึง "ยาขอบ"หรือ นายโชติ แพร่พันธุ์ นักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้วซึ่งเป็นทายาทเจ้าเมืองแพร่คนสุดท้าย


หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง: ทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่และจากการ ค้นคว้าในหนังสือประวัติศาสตร์พบว่า อพยพมาจากเมืองพวน แขวงเมืองเชียงราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ พ.ศ. 23602380 ไทยพวนบ้านทุ่งโฮ้ง หรือชื่อเดิมเรียกว่า บ้านทั่งโฮ้ง คำว่าทั่งหมายถึง ทั่วที่รองรับการตีเหล็ก คำว่า โห้งเป็นภาษาไทยพวน หมายถึงสถานที่เป็นแอ่งลึกลงไป คนพวนว่า มันโห้งลงไปสมัยก่อนนั้นคนพวนบ้านทุ่งโฮ้งจะมีเตาตีเหล็ก กันแทบทุกหลังคาเรือน เขาจึงเรียกว่า บ้านทั่งโห้งส่วนคำว่า ทุ่งโฮ้งคงจะเป็นคำเพี้ยงจากคำว่า ทั่งโห้งอาชีพหลักของชาวบ้านทุ่งโฮ้ง คือการทำผ้าหม้อห้อมแท้ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ ที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดแพร่ จนได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP เชิงหัตถกรรม (OTOP Village Champion Handicrafts Tourism) ผลิตภัณฑ์โดดเด่น ผ้าหม้อห้อม หม้อห้อมเป็นคำพื้นเมือง จากคำสองคำคือ หม้อและ ห้อมหม้อเป็นภาชนะอย่างหนึ่งที่ใช้ในการบรรจุน้ำ หรือของเหลวมีทั้งเล็กและใหญ่ ส่วนห้อมนั้น เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่ใช้ลำต้นและใบมาหมัก ในน้ำตามกรรมวิธีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ จะให้เป็นสีกรมท่าโดยนำผ้าขาวไปย้อมให้เป็นสีกรมท่าที่เรียกว่า ผ้าหม้อห้อมผ้าหม้อห้อม เป็นผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านทุ่งโฮ้งที่มีความโดดเด่น เนื่องจากเป็นเอกลักษณ์ของชาวทุ่งโฮ้ง และชาวแพร่มาช้านาน ตลอดจนเป็นชุดแต่งกายประจำถิ่นของชาวแพร่ และชาวบ้านทุ่งโฮ้งที่สวมใส่ ในชีวิตประจำวัน และงานประเพณีต่างๆ จึงถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพร่ ดังคำขวัญของจังหวัดแพร่ที่กล่าวไว้ว่า หม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเลื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงามการจัดการด้านการท่องเที่ยวบ้านทุ่งโฮ้งมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสำหรับบริการให้ข้อมูล และเอกสารแก่นักท่องเที่ยวพร้อมทั้งยังเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าOTOPภายในหมู่บ้านอีกด้วยและเป็นหมู่บ้านเชิงหัตถกรรมที่
นักท่องเที่ยวสามารถชมกระบวนการผลิตผ้าหม้อห้อมได้ทุก ขั้นตอนและสามารถเลือกซื้อได้โดยตรงจากชาวบ้านนักท่องเที่ยว สามารถพักแรมที่หมู่บ้านได้เพราะมี Home Stay ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย




พระธาตุพระลอ : อยู่ที่ตำบลบ้านกลาง ห่างจากอำเภอสองประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นพระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงความรักอมตะของพระลอแห่งนครแมนสรวง และพระเพื่อน-พระแพงแห่งเมืองสรอง เป็นต้นกำเนิดของวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอซึ่งจัดว่าเก่าแก่ที่สุด สันนิษฐานว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น บทประพันธ์ลิลิตพระลอได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดลิลิตบทหนึ่งเพราะบรรยายได้อย่างไพเราะ คือ
           เสียงลือเสียงเล่าอ้าง  อันใดพี่เอย
           เสียงย่อมยอยศใคร     ทั่วหล้า
           สองเขือพี่หลับใหล      ลืมตื่น ฤาพี่

           สองพี่คิดเองอ้า    อย่าได้ถามเผือ



แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

แก่งหลวง :เป็นบริเวณที่มีโขดหินใหญ่น้อยเรียงรายอยู่ในแม่น้ำยม ซึ่งเมื่อน้ำไหลมาปะทะจะเกิดฟองฝอยสาดกระเซ็นสวยงาม เหมาะสำหรับจัดกิจกรรมนั่งแพ และล่องแก่งไต่เชือกมีกิจกรรม ที่เข้าเป็นฐานผจญภัยและยังเป็น จุดชมความงามของลำน้ำยมอีกแห่งหนึ่ง


ดอยผากลอง:อุทยานแห่งชาติดอยผากลองอยู่ในท้องที่อำเภอลอง อำเภอเมือง และอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ประกอบด้วยพื้นที่เป็นเขาสูงชัน บางแห่งพื้นที่ราบบนเขามีหินโผล่จากพื้นดินตามธรรมชาติอย่างสลับซับซ้อน เป็นหินปูน และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม คือ สวนหินมหาราช จะมีหินโผล่ซึ่งมาจากพื้นดินตามธรรมชาติอย่างสลับซับซ้อนน่าอัศจรรย์ ประกอบกับบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายปัจจุบันมีผู้เข้าไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก และมีเทือกเขาดอยผากลองเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร


ถ้ำผานางคอย : เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาหินปูน ที่ตั้งตระหง่านกลางป่า ปกคลุมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ อดีตเมื่อผืนป่ายังอุดมสมบูรณ์ ละแวกนี้เต็มไปด้วยสัตว์มากมายหลายชนิด โดยเฉพาะกวางป่า เป็นที่มาของชื่ออำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร แต่เมื่อพื้นที่ถูกแปรเป็นพื้นที่การเกษตร สัตว์ก็ค่อยๆ หายไป เหลือเพียงภูเขาหินปูน ถ้ำและหินงอกหินย้อยสวยวิจิตรอลังการเป็นประติมากรรม ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างไว้ถ้ำแห่งนี้มิถูกร้อยเรียงเรื่องราวให้เข้ากับตำนาน



ถ้ำเอราวัณ : เป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดของจังหวัดแพร่ มีความลึกประมาณ 200 เมตร ภายในถ้ำมีห้องโถงกว้าง มีหินงอก หินย้อยอยู่ทั่วไปรูปร่างคล้าย ช้างเอราวัณ และหญิงอุ้มท้องตามตำนานของถ้ำแห่งนี้ ถ้ำเอราวัณ เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีบันไดเรียงคดโค้งไปมาจากเชิงเขาเบื้องล่างขึ้นสู่ปากถ้ำกว่า 600 ขั้น มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่บริเวณปาก-ถ้ำ มองเห็นได้เด่นชัดจากระยะไกลภายในถ้ำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่แห่งตำนานนิยายพื้นบ้านเรื่อง นางผมหอมมีหินงอกหินย้อยสวยงาม



 น้ำตกแม่เกิ๋งหลวงและแม่เกิ๋งน้อย : สถานที่ตั้ง อยู่ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ สิ่งดึงดูดใจน้ำตกแม่เกิ๋งซึ่งเป็นที่รู้จักและสนใจของนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเยี่ยมชมคือน้ำตกแม่เกิ๋งหลวงพื้นที่หมู่บ้านที่ตั้งอยู่รอบๆพื้นที่ป่าอันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกแม่เกิ๋ง เป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยง คำว่า แม่เกิ๋งเป็นภาษากะเหรี่ยงหมายถึงขั้นบันไดลักษณะของน้ำตกแม่เกิ๋งหลวงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีน้ำมาก น้ำไหลตลอดปี ความสูงมีถึง ๗ ชั้นลดหลั่นกันลงมาจากภูเขาที่ลาดชัน สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล โดยเห็นเป็นเส้นทางน้ำสีขาวพาดยาวอยู่กลางภูเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้หนาแน่น ระยะทางจากชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๗ประมาณกว่า ๒๐๐ เมตร มีเส้นทาง ปีนป่ายขึ้นไปชมความงามจนถึงชั้นที่ ๗และบางช่วงของแต่ละชั้น มีแอ่งน้ำใสสะอาดที่ลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยน้ำตกแม่เกิ๋งหลวงจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเข้าไปเที่ยวชม แห่ง หนึ่งของจังหวัดแพร่



น้ำพุร้อนแม่จอก:หากพูดถึงบ่อน้ำร้อนแน่นอนว่าภาคเหนือของประเทศไทยนั้นค่อนข้าง มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก "บ่อน้ำร้อนแม่จอก"ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่อง เที่ยวที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ เวียงโกศัย บ้านแม่จอก ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพรโดยบ่อน้ำร้อนนั้นมีลักษณะเป็นบ่อผุดขึ้นมาจากพื้นที่บริเวณนั้นส่วนน้ำร้อนในบ่อ นั้นมีอุณหภูมิ ประมาณ 80 องศาเซลเซียสซึ่งมีลักษณะที่แปลกและสวย งามมาก อีกทั้งยังมีห้องอาบน้ำแร่ นวดแผนไทย ไข่ลวกน้ำแร่ อาหาร เครื่องดื่มจำหน่ายสินค้าที่ระลึกท้องถิ่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน อีกด้วยนอกจากนี้ในช่วงตอนเช้า บริเวณบ่อน้ำร้อนจะมีหมอกควัน ที่เกิดจากไอน้ำลอยอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวย งามแก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างยิ่ง



วนอุทยานแพะเมืองผี : อยู่ในท้องที่ตำบลแม่หล่าย ตำบลน้ำชำ ตำบลทุ่งทุ่งโฮ่ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ มีเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2524 ลักษณะภูมิประเทศ



อ่างเก็บน้ำแม่ถาง: อ่างเก็บน้ำแม่ถาง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง สร้างแล้วเสร็จในปี 2538 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 215,000,000 บาท ปริมาณการเก็บกักน้ำ 30.60 ล้านลูกบาศก์เมตรสามารถเก็บกักน้ำไว้ตลอดปี อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการชลประทานแพร่ลักษณะเด่น อ่างเก็บน้ำแม่ถาง เป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง ได้แก่ ปลานิล ปลากดคัง ที่ราษฎรตำบลบ้านเวียงสามารถหารายได้ได้มากพอสมควร นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร (เรือนแพ) ที่ใช้ปลาสดจากกระชัง มีรสชาติดี ผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวยังมีแพสำหรับล่องเที่ยวชมอ่างในราคากันเอง โดยเฉพาะผู้ที่ชอบการตกปลามีมุมตกปลาที่สงบเงียบไว้บริการในแต่ละวันจะมีผู้มาเยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำแม่ถางอยู่เสมอทำให้สถานที่แห่งนี้ ไม่เคยเงียบเหงาเป็นอ่างเก็บน้ำคันดิน ของกรมชลประทาน วัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับการเกษตร ปัจจุบันเป็นแหล่งน้ำสำคัญของพื้นที่ ต. บ้านเวียง ต. น้ำเลา อ. ร้องกวาง มีทัศนียภาพอันงดงามเหมาะ แก่การพักผ่อนหย่อนใจ และมีการเลี้ยงปลาในกระชังอีกด้ว






http://student.nu.ac.th/